HBOT กับความงาม และการศัลยกรรม

“ออกซิเจนแรงดันสูง = ฟื้นฟูได้ลึกถึงระดับเซลล์”

การใช้ HBOT ในวงการความงามไม่ใช่แค่ “เทรนด์” แต่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับว่าการได้รับออกซิเจนบริสุทธิ์ในแรงดันสูงสามารถช่วยให้เซลล์ผิวหนังและเนื้อเยื่อฟื้นตัวได้รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของ HBOT ในด้านความงาม

1. ฟื้นฟูผิวจากภายใน

  • กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจนและอีลาสติน

  • ผิวเต่งตึงขึ้น ลดริ้วรอยเล็ก ๆ

  • ผิวดูสดใส สุขภาพดีจากภายใน

2. ลดเลือนรอยแผลเป็น

  • HBOT ช่วยลดการอักเสบและเร่งการสร้างเซลล์ใหม่

  • เหมาะกับแผลจากสิว แผลเป็นผ่าตัด หรือรอยดำคล้ำ

3. ดีท็อกซ์ผิว / ลดสารอนุมูลอิสระ

  • ออกซิเจนช่วยกระตุ้นเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant enzymes)

  • ส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์และลดการเสื่อมของเซลล์

4. ช่วยเรื่องการนอนหลับ / ลดเครียด

  • HBOT มีผลช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย นอนหลับลึกมากขึ้น

  • ช่วยชะลอวัยในมุมของสุขภาพจิตและสมดุลฮอร์โมน

HBOT กับการศัลยกรรมความงาม

1. เร่งการฟื้นตัวหลังผ่าตัด

  • เช่น เสริมหน้าอก ดูดไขมัน ดึงหน้า ตัดหนังตา

  • ลดบวมช้ำ ฟื้นตัวเร็วขึ้น 30–50%

  • ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ

2. กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่

  • ส่งผลให้แผลผ่าตัดหายไว ไม่แห้งลอก

  • ช่วยให้เนื้อเยื่อที่ผ่าตัดติดกันแน่นและมีเลือดมาเลี้ยงดี

3. ลดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด

  • เช่น ภาวะเนื้อเยื่อตาย (tissue necrosis), อักเสบเรื้อรัง หรือบวมไม่ยุบ

  • HBOT สามารถช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้

ตัวอย่างการใช้จริงในคลินิก/โรงพยาบาล

ข้อควรรู้

  • ควรเริ่มใช้ HBOT ภายใน 24–72 ชม. หลังผ่าตัดหรือหัตถการ เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

  • มักแนะนำให้รับบริการ 3–10 ครั้ง (ขึ้นกับชนิดของการผ่าตัดและร่างกายแต่ละคน)

  • ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะการใช้ HBOT ต้องมีการควบคุมแรงดันและเวลาอย่างเหมาะสม

หากคุณมีแผนจะทำศัลยกรรมใด ๆ และอยากให้ช่วยแนะนำว่า HBOT เหมาะกับขั้นตอนไหน และควรทำกี่ครั้ง สามารถปรึกษาแพทย์ได้เลย