การรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศชาย

โรค ED สามารถรักษาได้ด้วยวิธีต่างๆ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิด ED วิธีการรักษาที่พบบ่อย ได้แก่

  • การใช้ยา

ยากลุ่มยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ phosphodiesterase type 5 เป็นทางเลือกแรกในการรักษาผู้ที่ไม่มีข้อห้ามใช้ เช่น Viagra, Levitra, Cialis โดยจะต้องรับประทานก่อนมีเพศสัมพันธ์ ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง ซึ่งยาในกลุ่มนี้จะไม่สามารถใช้ร่วมกับยาในกลุ่ม Nitrate ได้

  • การใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำ (Shockwave therapy)

เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำกระแทกในเนื้อเยื่อของอวัยวะเพศ เป็นเทคโนโลยีและทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้เกิดการสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นในอวัยวะเพศ ทำให้เกิดการฟื้นฟูและรักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ทำให้เกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้ดี ทำให้เกิดการฟื้นฟูและรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ในผู้ป่วยที่มีปัญหาเลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศไม่เพียงพอ

  • การใช้กระบอกสุญญากาศ(Vacuum device)

โดยนำกระบอกสุญญากาศสวมเข้าที่อวัยวะเพศชายหลังทำการปั๊ม อากาศจะถูกปั๊มออกจากท่อพลาสติกที่สวมเข้าไปภายในเวลา 2-3 นาที เลือดจะถูกดึงให้เข้าไปที่เนื้อเยื่อแทน ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้

  • การผ่าตัด

เป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษาผู้ป่วยโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นการผ่าตัดใส่แกนอวัยวะเพศเทียมเข้าไปในอวัยวะเพศโดยตรง ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า 90 %

การใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำ (Shockwave therapy) เป็นวิธีการรักษา ED แบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้ยาหรือการผ่าตัด คลื่นกระแทกเป็นคลื่นเสียงความถี่สูงที่ส่งผ่านเข้าไปในองคชาต จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังองคชาตและช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดฝอยขึ้นใหม่ จึงทำให้การแข็งตัวกลับมาเป็นปกติดังเดิม

การรักษาด้วยคลื่นกระแทกสำหรับ ED ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย คงการแข็งตัวขององคชาตได้ดีขึ้น ใช้เวลาไม่นานและผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังจากการรักษา

  • ระยะเวลาการรักษา

ใช้เวลารักษาครั้งละ 30 นาที สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของภาวะหย่อนสมรรถภาพการรักษา ไม่เจ็บมาก และไม่จำเป็นต้องพักในโรงพยาบาล ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าจะเห็นผลการรักษา

การรักษาด้วยคลื่นกระแทกสำหรับ ED เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับผู้ชายที่มี ED นับเป็นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อบริเวณองคชาติได้ในระยะยาว การแข็งตัวจึงมีลักษณะที่ใกล้เคียงธรรมชาติเมื่อเทียบกับการรักษาในแบบอื่น หากคุณมีความเสี่ยง แนะนำให้มาปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่าการรักษาด้วยคลื่นกระแทกเหมาะสำหรับคุณหรือไม่