แก้ไขการโค้งงอของอวัยวะเพศชาย
การโค้งงอผิดปกติของอวัยวะเพศอาจเป็นตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดภายหลัง สามารถเกิดที่ตำแหน่งใดก็ได้ของลำอวัยวะเพศโดยอาจมีการโค้งงอขึ้นบน,ลง ล่าง,ในทางซ้ายหรือทางขวา การโค้งงอลงล่างเป็นภาระที่เกิดตั้งแต่กำเนิดได้น้อย เนื่องมากจากการที่มีพังพืดใต้อวัยวะเพศ[CORDEE] การงอโค้งด้านข้าง มักเกิดจากที่ส่วนของท่อในอวัยวะเพศที่ทำหน้าที่แข็งตัวข้างซ้ายและข้างขวา มีความยาวที่แตกต่างกันภาวะการโค้งงอผิดรูปจะเห็นเมื่อเวลามีการแข็งตัว ของอวัยวะเพศไม่เห็นในภาวะปกติ
โดยทั่วไปในอวัยวะเพศชาย จะประกอบด้วยท่อกระบอก 3 ท่อ ท่อด้านบน 2 ท่อทำหน้าที่ในการแข็งตัวเพื่อการสอดใส่ระหว่างท่อด้านบน 2 ท่อมีท่อด้านล่าง [ท่อที่ 3] ซึ่งทำหน้าที่หุ้มรอบท่อปัสสาวะ และเป็นทางเดินของน้ำอสุจิและตัวอสุจิ
เวลามีความรู้สึกหรืออารมณ์ทางเพศ เลือดจะเข้าไปในทั้งด้านบนท่อสองเหมือนการเป่าลูกโป่งที่เป็นลูกโป่งยาวจะทำ ให้ส่วนอวัยวะเพศทั้งหมดแข็งตัวขึ้นถ้ามีท่อด้านใดสั้นกว่าหรือมีแผลเป็น บริเวณท่อเหล่านี้ทำให้ขยายตัวไม่ได้ก็จะมีการงอในทางด้านนั้นๆภาวะที่มีการ โค้งงอผิดปกติอาจจะแบ่งได้ตามสาเหตุคือ
- เป็นตั้งแต่กำเนิด,อาจงอในทิศทางขึ้นบนลงล่าง หรือด้านข้าง ถ้าการโค้งงอเกิดเล็กน้อยถือว่าไม่ผิดปกติไม่ต้องทำการแก้ไขเพราะตามปกติ แล้วอวัยวะเพศจะมีการเฉียงไปด้านใดด้านหนึ่งเล็กน้อยได้แต่ถ้าความผิดปกติ ชัดเจนมากและมีผลให้ใช้ชีวิตในสังคมได้หรือมีผลต่อการสอดใส่ขนาดมีเพศ สัมพันธ์ ก็คงต้องผ่าตัดแก้ไข
- เกิดขึ้นภายหลังภาวะนี้เรียกกันโดยทั่วไปว่าโรคไพโรนีย์ [PEYRONIES DISEASE] สาเหตุของการเกิดโรคไพโรนีย์เกิดจากการที่มีแผลเป็นเกิดขึ้นด้านนอกของท่อ ด้านบน 2 ท่อ ซึ่งทำหน้าที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศระหว่างที่แข็งตัวแผลเป็นด้าน หนึ่งจะดึงไม่ให้ผิวด้านบนยืดออกทำให้อวัยวะเพศงอมาด้านที่มีแผลเป็นยิ่งมี การแข็งตัวขึ้นมากเท่าไหร่การงอก็จะเห็นได้ชัดมากขึ้นเท่านั้น
โรคไพโรนีย์เป็นโรคที่พบในคนสูงอายุเลยวัยกลางคนโดยมักเกิดที่อายุ 45-60 ปี พบมากในคนที่มีอายุ 55 ปี มีโอกาสเกิด 1-3 % ของคนทั่วไปโดยภาวะที่ปกติระยะแรกมีดังนี้
- ปวดเวลาแข็งตัวและมีเพศสัมพันธ์โดยที่การปวดเกิดจากแผลเป็นที่ผิวและ เกิดจากการปวดเมื่อยจากการตึงผิดปกติด้านใดด้านหนึ่งขณะที่ร่วมเพศโดยอวัยวะ ที่โค้งงอมากๆแล้วกดโดนผนังช่องคลอดที่ตรงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณฐานอวัยวะ เพศต้องทำงานหนักขึ้น จึงเกิดการปวดเมื่อยมากเวลาร่วมเพศ
- เริ่มมีการโค้งงอของอวัยวะเพศ
- ขนาดของอวัยวะเพศเล็กลงจากการรัดของพังพืดและมีการลดของความยาว
- ถ้าคลำดูจะคลำได้ก้อนแข็งที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของอวัยวะเพศ
สาเหตุของโรคไพโรนีย์ เชื่อว่าเกิดจากการเกิดบาดแผลหลังการกระทบกระเทือนที่ผนังด้านใดด้านหนึ่ง ของท่อด้านบนที่ทำหน้าที่แข็งตัวโดยมากมักเกิดจากการร่วมเพศโดยอาจเกิดจาก การร่วมเพศอย่างรุนแรงหรือการเปลี่ยนท่าอย่างรวดเร็วโดยเมื่ออายุ 50 ปี เนื้อเยื่อเกี่ยวพันบางส่วนจะลดความยืดหยุ่นลงทำให้เกิดการฉีกขาดและเกิดแผล ได้ง่าย แผลที่เกิดขึ้นจะเกิดการอักเสบและหายเองได้ในบางราย แต่บางรายจะหายและเกิดแผลเป็นตามทำให้เกิดภาวะโรคไพโรนีย์ในภายหลัง โรคไพโรนีย์มักพบในคนที่เป็นหรือเป็นเก๊ามากกว่าในคนทั่วไป นอกจากนี้แล้วโรคไพโรนีย์ยังอาจเกิดจากอุบัติเหตุภายนอก เช่นอุบัติเหตุจราจรหรือ จากการถูกทำร้ายร่างกายได้
โรคไพโรนีย์ เป็นโรคที่หายได้เอง โดยทั่วไปจะแบ่งระยะของโรคเป็น 2 ระยะ เพื่อประโยน์ในการเลือกวิธีการรักษาดังนี้
A. ระยะแรกเป็นระยะที่มีการอักเสบของแผลภายใน
- มีอาการปวดที่บริเวณแผลเป็นในอวัยวะเพศ
- มีการโค้งงอมากขึ้นเรื่อยๆ
- การแข็งตัวไม่แน่นอน บางวันทำได้ บางวันทำไม่ได้
- ปวดมากทุกครั้งที่แข็งตัว
ระยะนี้ทั่วๆไปใช้เวลาประมาณ 12 เดือนการรักษาระยะนี้เป็นการรักษาโดยใช้ยาแก้ปวดอาจจะเป็นวิตามิน E ,สเตียร์รอย , ยาบล็อกแคลเซียม โดยมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อลดความเจ็บปวดไม่แนะนำให้ผ่าตัดเวลานี้เพราะการ ดำเนินของโรคยังมีและมีการเปลี่ยนแปลงตลอด
B. ระยะที่ 2 เป็นระยะคงที่แผลภายในหายสนิทแล้ว
- คลำได้ก้อนแข็ง ,ไม่เจ็บ
- การโค้งงอไม่เป็นมากขึ้น
- การสั้นลงของอวัยวะเพศคงที่
- อาจมีภาวะที่ไม่แข็งตัว ในกรณีที่มีแผลรอบเส้นรอบวงของอวัยวะเพศทำให้เลือดไม่สามารถไหลไปที่ปลายอวัยวะเพศได้
ส่วนใหญ่แผลของไพโรนีย์ มักเกิดที่ด้านบนทำให้อวัยวะเพศโค้งงอออกในด้านบน การรักษาในระยะที่ 2 เป็นระยะที่ถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้นก็สามารถผ่าตัดได้ โดยทั่วไปส่วนใหญ่คนที่เป็นโรคนี้เมื่อหายสนิทเข้าสู่ระยะที่ 2 แล้วอาจมีความผิดปกตินิดหน่อย ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด แต่ถ้าความผิดปกติมีชัดเจน จนไม่สามารถร่วมเพศและใช้ชีวิตคู่ได้ปกติก็ต้องทำผ่าตัดหรือการโค้งงอที่ เห็นได้ชัดเจนมาก จนไม่สามารถสอดใส่ได้หรือบางกรณีมีการโค้งงอไม่มากแต่มีความเจ็บปวดมากทุก ครั้งที่ร่วมเพศก็ไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ตามปกติได้อย่างมีความสุข
เทคนิคการผ่าตัด
การแก้ไขการโค้งงอ ทำได้หลายวิธีดังนี้
- การเย็บด้านตรงข้ามกับด้านที่โค้งงอเป็นเทคนิคที่ใช้ไหมชนิดไม่ละลาย เย็บด้านตรงข้ามกับด้านที่งอวิธีนี้ทำได้โดยง่าย,ความเสี่ยงน้อยเพราะไม่ ต้องเปิดผนังของท่อที่ทำหน้าที่แข็งตัวแต่มีโอกาสที่ไหมจะขาดในภายหลังทำให้ เกิดการงอใหม่ได้ เทคนิคนี้ใช้เฉพาะความผิดปกติแต่กำเนิดถ้าใช้ในโรคไพโรนีย์ มีโอกาสที่จะมีคือการโค้งงอใหม่ประมาณ25% เทคนิคนี้เหมาะจะใช้กับการแก้ไขความโค้งงอเล็กๆน้อยๆที่เหลืออยู่
- การผ่าตัดและเย็บ [NESBIT] ทำโดยการเปิดแผลอวัยวะเพศ เช่นเดียวกับการขลิบหนังแยกเส้นประสาท และเส้นเลือดออกตัดผิวของท่อทรงกระบอก 1 มม. – ลดความงอได้ 10 % แล้วเย็บปิดโดยใช้ไหมที่ละลายช้าๆ เทคนิคนี้แนะนำให้ใช้ ในกรณีที่เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดหรือในโรคไพโรนีย์ที่ไม่ต้องการใช้กราฟ
- การตัดแผลเป็นและปิดด้วยกราฟ [LUE] การผ่าตัดนี้เป็นการผ่าตัดที่แผลเป็นอาจจะตัดแผลเป็นออกหรือไม่ก็ได้ ถ้าแผลเป็น เป็นแผลนิ่ม แต่ถ้าแผลเป็นมีแคลเซี่ยมสะสมแล้วต้องตัดออก หลังจากตัดแผลเป็นแล้วต้องทำการขยายแผลแล้วต้องใช้เนื้อเยื่อมาปิดช่องว่าง ที่เกิดขึ้นการเลือกโดยเนื้อเยื่อที่นำมาใช้ปิดขึ้นกับความถนัดของศัลยแพทย์ โดยอาจใช้ผนังเส้นเลือดดำ ,พังพืดจากที่อื่น ผิวหนังหรืออาจใช้ผนังของท่อด้านบนอย่างอวัยวะเพศด้านตรงข้าม เทคนิคนี้เป็นเทคนิคมาตรฐานสำหรับโรคไพโรนีย์ไม่แนะนำให้ใช้กับคนที่ต้อง การแก้ไขความโค้งงอเล็กน้อยเพราะต้องมีการตัดเนื้อที่อื่นๆมาทำกราฟ
สำหรับในคนที่มีปัญหาเรื่องการแข็งตัวอาจมีการใส่อุปกรณ์ช่วยในการแข็ง ตัวร่วมด้วยหรือในกรณีที่หลังผ่าตัดแล้วเล็กลงอาจต้องทำการเพิ่มขนาดร่วม ด้วย
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- ยาที่ทานประจำเป็นยาความดันให้ทานปกติ เช้าวันที่ผ่าตัด
- งดน้ำและอาหาร 6-8 ช.ม. ก่อนผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ 3 อาทิตย์ ก่อนผ่าตัด
- เตรียมเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายหลังผ่าตัดแนะนำให้ใช้กางเกง boxer และ เสื้อหลวมๆ
- เตรียมหยุดงานประมาณ 10-14 วัน
- งดยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพริน อาหารเสริมบางชนิดที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่นกระเทียม น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 อาทิตย์ ก่อนผ่าตัด
- ทำความสะอาด โกนขนอวัยวะเพศก่อนมาผ่าตัด
- ไปถึงโรงพยาบาลก่อนผ่าตัด 4-5 ชั่วโมง
ขั้นตอนการผ่าตัด
การผ่าตัดทำโดยดมยาสลบ ยกเว้นเทคนิคที่ 1 สามารถฉีดยาชาได้ ถ้าแก้ไขเล็กน้อย
- ดมยาสลบ
- วางรูปตำแหน่งของแผลถ้าเป็นโรคไพโรนีย์
- ตรวจความโค้งงอในภาวะที่แข็งตัว
- เปิดแผลบริเวณใต้ต่อขอบของหัวอวัยวะเพศ เช่นเดียวกับการขลิบหนังหุ้มปลาย
- แยกเส้นเลือดและเส้นประสาทออกจากท่อทั้งสาม
- แก้ไขความโค้งงอตามเทคนิคที่ตกลงไว้
6.1 สำหรับเทคนิคที่ 2
– ตัวผิวหนังของท่อฝั่งตรงข้าม กรณีที่โค้งงอโดยดูตามความโค้ง 1 มม. แก้ความโค้ง 10องศา
– เย็บปิดโดยไหมละลายช้า [PDS]6.2 สำหรับเทคนิคที่ 3
– ตัดแผลเป็นที่แข็งออกหรือไม่ตัดออกถ้าแผลนิ่ม
– เปิดแผลที่ต้นขาเพื่อเอาผิวหนังหรือเส้นเลือดดำมาเตรียมปิดแผลที่ท่อของอวัยวะเพศ
– เย็บปิดแผลต้นขา
– ใช้เส้นเลือดด้านบนปิดช่องว่างที่ท่ออวัยวะเพศโดยให้ด้านในสัมผัสกับด้านในของท่อ - ทดสอบการแข็งตัวอีกครั้งถ้ามีการโค้งงอเล็กน้อย อาจใช้การเย็บของเทคนิคที่ 1 ช่วยแก้ไข
- ดึงผิวหนังเข้ามาเย็บปิดตามเดิม
การดูแลหลังการผ่าตัด
- อาการปวดไม่มากโดยทั่วไปทานยาแก้ปวด ก็มักจะได้ผลดี
- ใช้ผ้าปิดแผลไว้ 3 วัน
- งดร่วมเพศ 5 อาทิตย์
- ถ้าใช้การเย็บอาจคลำได้ปมไหมที่ผิวหนังได้
- งดการขับรถหรืองานที่ใช้เครื่องจักร 2 อาทิตย์
- งดดื่มสุรา 2 อาทิตย์
- สามารถอาบน้ำได้ ในวันที่ 3
- ระวังรักษาแผลให้แห้งอย่าให้เปียกน้ำ
- งดการเดินไกลๆยืนนานๆหรือยกของหนัก 2 อาทิตย์
- ออกกำลังกายได้เมื่อ 4 อาทิตย์
- อาการบวมหรือเขียวช้ำจะดีขึ้นใน 1-2 อาทิตย์
- ทานยาแก้ปวดและแก้อักเสบ ตามที่ให้ห้ามทานยากลุ่มแอสไพริน 2 อาทิตย์ หลังผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 3 อาทิตย์
- แผลอาจมีเลือดออกบ้าง ถ้ามีเลือดออกผิดปกติมากให้ติดต่อแพทย์ทันที
- งดทำงานหนักหรือหยุดงานประมาณ 7-10 วัน
- ใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดรอบๆแผลเช้า-เย็น
หมายเหตุ
การผ่าตัดแก้ความโค้งงอจะมีปัญหาเรื่องความยาวของอวัยวะเพศลดลงโดยทั่วไป เทคนิคที่ 3 ไม่ลดลงส่วนเทคนิคที่ 1-2 จะลดลงมากกว่าแต่มีความแข็งแรงของแกนอวัยวะเพศมากกว่า