คลินิกศัลยกรรมสำหรับผู้ชาย - Clinic For Men

ทำตา 2 ชั้น

การผ่าตัดทำตา 2 ชั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีตาชั้นเดียว หรือผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ที่มีปัญหาเรื่องหนังตาบนหย่อนทำให้หนังตาเหลือชั้นเดียวและผู้ที่มี ปัญหากล้ามเนื้อตาตก การผ่าตัดตา 2 ชั้น ในผู้ชายมีรายละเอียดมากกว่าผู้หญิงหลายประการ การผ่าตัดชั้นตาในผู้ชายมักจะทำชั้นตาที่เล็กและไม่ตัดไขมันออกมากเกินไป

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางอย่างซึ่งอาจทำให้เลือดหยุดช้า เช่น แอสไพริน บรูโรเฟน พอนสแตน ฯลฯ ถ้ากินยาควรหยุดยาประมาณ 10 – 14 วัน
  • งดสมุนไพรและอาหารบางชนิดเช่น อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรส กระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัด ประมาณ 3 – 5 วัน
  • งดวิตามินและอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามินซี อีฟนิ่งพริมโรส กลูต้า คลอลาเจน และอื่นๆ ควรหยุดทานอย่างน้อย 10-14 วันก่อนการผ่าตัด
  • ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลินซัลฟา ฯลฯ
  • ควรเตรียมนำแว่นกันแดดไปด้วยเพื่อใช้อำพรางดวงตาหลังการผ่าตัด และป้องกันฝุ่นละออง ควรมีผู้ขับรถให้ เพราะหลังการผ่าตัดจะยังใช้สายตาได้ไม่สะดวกนัก จึงไม่ควรขับรถเอง
  • เตรียมลาหยุดงาน 5 วัน
  • ล้างหน้าก่อนมาผ่าตัด ไม่ควรแต่งหน้าในวันผ่าตัด
  • ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด ต้องการยา aspirin หรือผู้ที่เป็นโรคลิ้นหัวใจและทานยา Cumadin เป็นประจำ สามารถทำผ่าตัดได้ต่อเมื่อแพทย์ที่รักษายินยอมให้ทำการผ่าตัดและจะทำผ่าตัด เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น
  • ผู้ที่ใช้เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ ไม่ควรมารับการผ่าตัด เนื่องจากเครื่องจี้ไฟฟ้าอาจมีผลต่อการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจได้
  • ถ้ามีความดันโลหิตสูง ต้องควบคุมให้ต่ำกว่า 140/90 mm Hg (มิลลิเมตร ปรอท) ก่อนมารับการผ่าตัด
  • ถ้าใส่คอนแทคเลนส์ ควรถอดออกแล้วใส่แว่นตา วันที่มาผ่าตัดควรมีคนมาเป็นเพื่อน เพื่อช่วยดูแลขณะกลับบ้าน
  • ถอดวัสดุโลหะ เช่น แหวน สร้อยคอ นาฬิกา ฯลฯ ก่อนเข้าห้องผ่าตัด
แจ้งให้แพทย์ทราบ ณ วันรับคำปรึกษาเกี่ยวกับยาและอาหารเสริมที่ท่านทานอยู่[/caption]

เทคนิคการผ่าตัด

เทคนิคที่ 1 การเย็บชั้นโดยไม่ต้องกรีดหนังตา

เป็นวิธีที่ใช้ได้สำหรับผู้ที่มีลักษณะเปลือกตาชั้นเดียวที่มีไขมันไม่มาก และหนังตาไม่ตกหย่อนมากเกินไป เนื่องจากไม่สามารถเอาไขมันและผิวหนังส่วน เกินออกไปด้วยได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นการผ่าตัดโดยวิธีร้อยไหมอย่างเดียวเท่า นั้น จึงมีโอกาสที่ไหมที่ร้อยไว้อาจหลุดได้ แต่มีข้อดีคือ มีอาการบวมไม่มาก นัก และไม่ต้องคอยระวังเรื่องแผล เพราะเป็นจุดเย็บที่เปลือกตาเท่านั้น โดยไม่มีแผลผ่าตัด

เทคนิคที่ 2 การผ่าตัดโดยการกรีดชั้นบริเวณหนังตา

เป็นการผ่าตัดโดยใช้มีดผ่าตัด กรีดเปิดหนังตาตั้งแต่หัวตาไปจนถึงหางตา ตาม ตำแหน่งของชั้นตาที่คนไข้ต้องการ การผ่าตัดแบบธรรมดาจะผ่าตัดด้วยมีด อีกแบบคือผ่าตัดร่วมกับการใช้ปลายเข็มไฟฟ้าที่มีปลายคมมาก ซึ่งเป็นวิธีที่ แพทย์นิยมใช้ วิธีนี้อาจผ่าตัดโดยใช้มีดผ่าตัดหรือใช้ Laser ในปัจจุบันมีการผ่าตัดโดยการใช้ Laser น้อยลงมากกว่าเมื่อก่อน เนื่องจากแผลเป็นจากการผ่าตัดด้วย Laser ค่อนข้างเห็นชัดและใช้เวลาในการรักษากว่าการใช้มีดผ่าตัด

เทคนิคที่ 3 การเย็บชั้นตาโดยเปิดแผลขนาดเล็ก (mini incision)

เป็นการผ่าตัดตาสองชั้นโดยเปิดแผลขนาดเล็ก ไม่มีแผลเป็นยาวตลอดชั้นตา แผลจะมีความยาวประมาณ 8 – 10 mm. วิธีการนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการทำตาสองชั้นแต่ไม่มีหนังตาหย่อนจนต้องผ่าตัดหนังตา แต่มีไขมันที่เปลือกตามาก จำเป็นต้องตัดไขมันที่เปลือกตาบางส่วน ซึ่งไม่สามารถทำโดยวิธีที่ 1 ได้

การปรึกษาก่อนผ่าตัด

จ้งความต้องการและข้อมูลต่างๆกับแพทย์

  1. กำหนดขนาดชั้นตา
  2. ไขมันที่เปลือกตา ต้องการตัดออกมาก-น้อยแค่ไหน
  3. ไขมันที่หัวตา ต้องการผ่าตัดออกด้วยหรือไม่ (ไขมันที่ตัดออกสามารถนำมาเติมร่องน้ำตาได้ ในรายที่ร่องน้ำตาลึก)
  4. ต้องฉีดไขมันเติมหรือไม่
  5. มีหนังตาตกแต่กำเนิดร่วมด้วยหรือไม่

ขั้นตอนการผ่าตัด

ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนที่ 4
ฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการผ่าตัด กรีดชั้นตาและเอาไขมันออก เย็บยึดชั้นตากับกล้ามเนื้อด้านล่าง เย็บยึดชั้นตากับกล้ามเนื้อด้านล่าง

ใช้เวลาผ่าตัด 30 – 90 นาที ไม่จำเป็นต้องใช้เลเซอร์ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายมากว่าการผ่าตัดธรรมดา

การดูแลหลังการผ่าตัด

  1. ควรนอนยกศีรษะสูง (หนุนหมอน 2 ใบ)ประคบเย็นที่ตาทั้ง 2 ข้าง วันละ 4 ครั้ง ประคบประมาณ 5 – 7 วัน เพื่อลดอาการบวม
  2. ผ้าก็อส (GAUZE) ที่ปิดแผลบนตานั้นให้ปิดเพียง1 วัน หลังจากทำผ่าตัด จากนั้นให้เปิดผ้าออกได้เลย ไม่ต้องนำมาปิดอีก
  3. ใช้น้ำเกลือล้างแผลเทราดที่ไม้พันสำลีแล้วใช้เช็ดคราบเลือดและสิ่งสกปรก ออกโดยเช็ดอย่างเบามือ  วันละ 2 – 3 ครั้ง และเช็ดได้บ่อยๆ เมื่อมีคราบเลือดออกมา
  4. รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมดถ้าเกิดการแพ้ยา เช่น คัน มีผื่นแดง คลื่น ไส้ – อาเจียน แน่นหน้าอกให้หยุดรับประทานทันที และรีบมาพบแพทย์
  5. หลังทำผ่าตัด 5 วันให้มาตัดไหม
  6. หลังทำผ่าตัด 1 อาทิตย์หรือ 1 เดือน ให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจอาการอีกครั้ง (โทรนัดล่วงหน้า)
  7. ควรงดสุราหรือบุหรี่ และวิตตามิน 2 อาทิตย์
  8. หลังผ่าตัดกลับบ้านได้ แต่ควรหาโชเฟอร์มาขับรถให้
  9. อาจจะมีน้ำตาไหลตลอดเวลาชั่วระยะหนึ่ง โดยเฉพาะเวลาที่โดนลม แต่จะหายไปภายในไม่กี่อาทิตย์

การดูแลหลังการตัดไหม

  1. หลังจากตัดไหมแล้วตาจะยังมีอาการบวมอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ถึง 1 เดือน  จากนั้นประมาณ 3 เดือน แผลจะหายเป็นปกติและดูเป็นธรรมชาติ
  2. หลังตัดไหมแล้วให้ใช้ EYE CREAM, EYE GEL, Vitamin E, Oil ทานวดที่แผล วันละ 30 – 40 ครั้ง วันละ 2 เวลา (เช้า – เย็น) เพื่อป้องกันการเกิดแผลเป็นนูนแข็ง
  3. หลังทำผ่าตัดแล้ว 2 อาทิตย์ ในกรณีที่แผลเขียวช้ำ สามารถประคบอุ่นได้โดยประคบวันละประมาณ 2 – 3 ครั้ง ประมาณ 3 – 5 วัน
  4. หากมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับแผล เช่น ตาแดงมาก เคืองตา แผลแยก ให้มาพบแพทย์ทันที
  5. ล้างหน้า รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย โดนแสงแดดได้ตามปกติ แต่ห้ามขยี้ตาแรงเป็นเวลา2 เดือน
  6. อาการบวมและรอยช้ำจะหายไปภายใน 7 – 14 วัน ขึ้นอยู่กับแผลจึงหายเป็นปกติ คุณสามารถลดอาการบวมได้ด้วยการนอนหนุนหมอนสูงและการประคบน้ำแข็ง
  7. สามารถสวมคอนแทคเลนส์ได้ภายใน 7 – 14 วัน หลังตัดใหม สามารถสวมแว่นตาได้เลยและแต่งดวงตาได้ภายใน 7 – 10 วันหลังจากตัดใหม
  8. ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยการสวมแว่นตา