การฉีดไขมันเพื่อเสริมกล้ามเนื้อหน้าอกเพศชาย

กล้ามเนื้อหน้าอกที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงเป็นส่วนที่ทำให้รูปร่างผู้ชายดีขึ้นมาก  รวมทั้งช่วยให้การสวมใส่ เสื้อผ้าแบบบางดูดีขึ้น   ในผู้ที่ประสบปัญหาไม่สามารถเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าอกด้วยการออกกำลังกาย อาจพิจารณาการเสริมกล้ามเนื้อหน้าอกซึ่งเป็นการผ่าตัดหรือฉีดไขมันที่ทำให้รูปร่างหน้าอก นูนขึ้นและดูแข็งแรงเหมือนหน้าอกธรรมชาติของผู้ที่ออกกำลังกาย และยังสามารถแสดงการคลายตัวและการหดตัวของกล้ามเนื้อหน้าอกเช่นเดียวกับหน้าอกนักเพาะกายธรรมชาติ

การผ่าตัดเสริมกล้ามเนื้อหน้าอกเพศชายโดยทั่วไปมีการผ่าตัดกัน โดยใช้วัสดุเป็นซิลิโคนแผ่น หรือซิลิโคนเจล เสริมใต้กล้ามเนื้อผ่านแผลรักแร้ เป็นการผ่าตัดที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ถ้าไม่ชอบหรือไม่พอใจสามารถที่จะถอดซิลิโคนออกได้  หลังจากถอดซิลิโคนหน้าอกจะกลับสู่สภาวะเดิม ก่อนการเสริมกล้ามเนื้อหน้าอก

ในผู้ชายบางคนมีไขมันหน้าท้องมากพอสมควร และต้องการลดไขมันหน้าท้องโดยการดูดไขมันอยู่แล้ว  สามารถใช้เทคนิคโดยวิธีการนำไขมันที่ดูดออกมาผ่านกระบวนการแยกของเหลวก่อนนำมาฉีดที่กล้ามเนื้อหน้าอก ผ่านแผลขนาดเล็กบริเวณรักแร้ หลังฉีดไขมันแล้วจะดูเหมือนกล้ามเนื้อหน้าอกธรรมชาติของผู้ที่ออกกำลังกาย

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดฉีดไขมันเพื่อเสริมกล้ามหน้าอก

  1. งดอาหารและน้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
  2. ตรวจเลือดดูระบบโลหิตการทำงานของไตเอ็กซเรย์ปอดและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจถ้าอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 35 ปี
  3. ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
  4. โกนขนรักแร้ในวันที่มารับการผ่าตัด
  5. ก่อนผ่าตัด 1 วัน โทรนัดดูเวลาผ่าตัด กับทางคลินิกว่าทำผ่าตัดเวลาเช้าหรือเย็น ถ้าผ่าตัดเวลาเช้าให้งดน้ำและอาหารหลังเที่ยงคืน ถ้าผ่าตัดเวลาเย็นให้งดอาหารและน้ำ 8 ชั่วโมง ก่อนเวลาผ่าตัด
  6. ควรเผื่อเวลามาเข้าพักโรงพยาบาลก่อนเวลาผ่าตัดประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง เพื่อเตรียมทำประวัติและเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
  7. งดดื่มเหล้าและงดสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์ก่อนการผ่าตัด การสูบบุหรี่ ทำให้มีเสมหะในปอดมากและอาจทำให้เกิดปัญหาในการดมยาสลบ และทำให้แผลผ่าตัดหายช้า การพักฟื้นก็จะใช้เวลานานขึ้น
  8. งดยาแก้ปวดกลุ่ม แอสไพริน บลูเฟ่น วิตามิน E และอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของสาหร่าย 2 อาทิตย์ ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากกลุ่มยานี้ทำให้เลือดหยุดยากและเกิดอาการเขียวช้ำได้บ่อยๆหลังผ่าตัด
  9. ของมีค่า เช่น แหวน นาฬิกา เครื่องประดับ ควรถอดทิ้งไว้ที่บ้าน ไม่ควรนำมาโรงพยาบาล เพราะหลังผ่าตัด ไม่สามารถดูแลได้สะดวก เตรียมเงินสดมาสำหรับพอใช้ประมาณ 1 – 2 วัน
  10. ถ้าเป็นคนที่เคยมีปัญหาเรื่องแผลฟกช้ำหรือเขียวง่าย ควรแจ้งให้ทราบก่อนการผ่าตัด
  11. ในคนที่อายุมากกว่า 40 ปี ควรเจาะเลือดและตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อย่างน้อย 1 อาทิตย์ ก่อนวันผ่าตัด
  12. เพื่อให้แผลหายไว อาจทานวิตามิน C ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนวันผ่าตัด กรณีนี้อาจจะรับประทานต่อหลังผ่าตัด
  13. ในวันก่อนผ่าตัดหรือเช้าวันผ่าตัดมีไข้หรือไม่สบายให้แจ้งแพทย์ให้ทราบทันทีเพื่อที่อาจต้องเลื่อนการผ่าตัด
  14. ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ใส่สบายในวันผ่าตัดควรเป็นเสื้อที่ติดกระดุมหน้าไม่ควรเป็นเสื้อยืดที่ต้องใส่ผ่านคอ

ขั้นตอนการผ่าตัดฉีดไขมันเพื่อเสริมกล้ามหน้าอก

  1. ก่อนผ่าตัดแพทย์จะวาดรูปตำแหน่งที่จะทำการดูดไขมัน ตำแหน่งฉีดไขมัน และปริมาณไขมันที่ต้องการฉีด
  2. การผ่าตัดทำโดยการดมยาสลบ
  3. เปิดแผลบริเวณสะดือ ท้องหรือขาหนีบ เพื่อดูดไขมัน
  4. ฉีดนำเกลือผสมยาลดการไหลเวียนของเลือด รอประมาณ 15-20 นาที
  5. ดูดไขมันโดยใช้ตัวดูดที่ใช้เพื่อการนำไปฉีดต่อ
  6. เตรียมไขมันที่ดูดได้ใส่กระบอกฉีดยาเตรียมฉีด
  7. แผลผ่าตัดมักจะลงแผลที่รักแร้ขนาดเล็กเพื่อใช้ฉีดไขมันใต้กล้ามเนื้อ
  8. ฉีดไขมันโดยใช้เข็มฉีดไขมันขนาดเล็ก ในตำแหน่งใต้กล้ามเนื้อบริเวณด้านในกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อนูนอย่างเห็นได้ชัด
  9. อาจจะทำการดูดไขมันด้านข้างกล้ามเนื้อเพื่อให้ด้านข้างมีรูปร่างดีขึ้น

การดูแลหลังการผ่าตัดฉีดไขมันเพื่อเสริมกล้ามหน้าอก

  1. ควรเตรียมหยุดงาน 3-5 วัน
  2. ห้ามยกแขนสูงในช่วง 1 สัปดาห์ แรกหลังการผ่าตัด
  3. วันแรกหลังผ่าตัด แพทย์จะทำการเปิดแผลแต่ยังให้พันหน้าอกด้วยผ้ายืดต่ออีก 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวม
  4. หลังจากครบ 1 สัปดาห์ สามารถเริ่มยกแขนสูงได้อย่างช้าๆ โดยทั่วไปการขยับแขนสามารถทำได้จนเกือบปกติในอาทิตย์ที่ 2 – 3 สามารถขยับแขนได้เหมือนปกติภายใน 1 เดือน
  5. งดการออกกำลังกายที่จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นประมาณ 3 – 6 สัปดาห์
  6. โดยทั่วไปจะให้นอนที่โรงพยาบาล 24 ชั่วโมง โดยนอนยกศีรษะสูงหนุนหมอน 2 ใบ ควรมีเพื่อนขับรถกลับบ้านให้ หลังจากออกจากโรงพยาบาล
  7. ควรทานยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น
  8. ผ้าพันหน้าอกควรพันไว้ตลอดเวลา ยกเว้นเวลาที่ต้องอาบน้ำ
  9. โดยทั่วไปจะนัดตัดไหม ประมาณ 5 วันและจะนัดตรวจอีกประมาณ 1 อาทิตย์ , 4 อาทิตย์ , 3 เดือน
  10. ห้ามให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม
  11. ประคบเย็นบริเวณหน้าอกช่วยให้ลดอาการบวมได้
  12. สามารถทำกิจกรรมตามปกติเมื่อ 2 อาทิตย์
  13. ห้ามยกของหนักในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  14. แผลเป็นที่รักแร้มักเห็นชัดในช่วงแรก อาจต้องใช้มือนวดแผลเป็นให้นิ่มขึ้นโดยทั่วไปหลัง 2 เดือนแผลจะมองเห็นไม่ชัด
  15. หากมีปัญหาอื่นๆ เช่น บวมมากหรือมีเลือดออกผิดปกติ ให้ติดต่อแพทย์โดยทันที

อาการข้างเคียง

  1. เลือดออกหลังผ่าตัดทำให้มีอาการเขียวช้ำที่หน้าอก การป้องกันทำโดยพันผ้ารัดหน้าอก และงดแอสไพรินหลังการผ่าตัด
  2. การสูบบุหรี่มีผลต่อการหายของแผลเพราะบุหรี่จะลดการไหลเวียนโลหิตและลด ออกซิเจนในเลือดทำให้แผลหายช้า หรืออาจทำให้แผลแยกหรือติดเชื้อได้ ควรงดสูบบุหรี่ก่อนและหลังการผ่าตัด
  3. แผลจากการดูดไขมันระยะแรกจะมีอาการตึง แข็ง ประมาณ 2-3 เดือน หลังจากนั้นจะนิ่มเป็นปกติ